อินเทล (Intel) คือบริษัทผู้ผลิตไมโครโพรเซสเซอร์และแผงวงจรอิเล็กทรอนิคส์ที่ใหญ่ที่สุดใน โลก ซึ่งเราคงทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ของอินเทลในปัจจุบันที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ CPU ตระกูล Pentium และเป็น CPU ที่พบได้มากที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไปบนโลกใบนี้
บริษัทอินเทลก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม ค.ศ. 1968 ซึ่งชื่อบริษัท Intel นั้นเป็นคำย่อมาจาก Integrated Electronics Coporation มีบริษัทแม่อยู่ที่เมืองซานตา คาล่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งของบริษัทอินเทลมีสองคน คนแรกคือ กอร์ดอน มัวร์ (Gordon Moore) และอีกคนคือ โรเบิร์ต นอยซ์ (Robert Noyce) ซึ่งโรเบิร์ต นอยซ์นั้นคืออดีตพนักงานของบริษัท Fairchild Semiconductor ในยุคแรกนั้นบริษัทอินเทลยังไม่ได้เป็นบริษัทที่ร่ำรวยเหมือนในปัจจุบันนี้ ยังเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ พนักงานในยุคแรกเริ่มของบริษัทอินเทลซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ บริษัทอินเทลเจริญก้าวหน้าใหญ่โตเหมือนในปัจจุบันนี้คือ แอนดรูว โกรฟ (Andrew Grove) ซึ่งในปัจจุบันแอนดรูว โกรฟกลายมาเป็นผู้บริหารงานคนสำคัญของบริษัทอินเทล จากผลงานของเขาทำให้อินเทลก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับโลกเช่นในปัจจุบัน
ปี ค.ศ.1969 ได้สร้างความสะเทือน ให้กับวงการอิเล็คทรอนิคส์ โดยการออกชิปหน่วยความจำ(Memory)ขนาด 1 Kbyte มาเป็นรายแรก ซึ่งในขณะนั้นหน่วยความจำขนาด 1 Kbyte ถือว่าสูงมาก ซึ่งทำให้วงการอิเล็คโทรนิคส์ในขณะนั้น จึงทำให้อินเทลคือเจ้าแรกๆที่ได้ผลิต SRAM และ DRAM ให้แก่ตลาดคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ในปี ค.ศ. 1971 อินเทลคือบริษัทแรกที่ได้ผลิตวงจรรวมแบบ ( Large Scale Integrated Circuit :LSI ) ทำการรวมเอาวงจรที่ใช้เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ( CPU) ของคอมพิวเตอร์มาบรรจุอยู่ในแผ่นไอซีเพียงตัวเดียวซึ่ง ไอซีนี้เรียกว่าไมโครโปรเซสเซอร์ ( Microprocessor) ซึ่งถือเป็น CPU ตัวแรกที่ได้ถูกผลิตขึ้น หลังจากบริษัทอินเทลได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Intel 4004 ในราคา 200 เหรียญสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แพงมากในขณะนั้น และเรียกชิปนี้ว่าเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ก็เพราะว่า 4004 นี้เป็น CPU (Central Processing Unit) ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาด 4.2 X 3.2 มิลลิเมตร ภายในประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์ จำนวน 2250 ตัว และเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 4 บิต หลังจากนั้น 1 ปีต่อมา Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ ขนาด 8 บิตออกมาโดยใช้ชื่อว่า 8008 มีชุดคำสั่ง 48 คำสั่ง และอ้างหน่วยความจำได้ 16 Kbyte ซึ่งทาง Intel หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทางด้านชิปหน่วยความจำได้อีกทางหนึ่ง
ในปี 1973 ทาง Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ที่มีชุดคำสั่งพื้นฐาน 74 คำสั่งและสามารถอ้างหน่วยความจำได้ 64 Kbyte และไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ตัวนี้ยังถือเป็นไมโครโปสเซสเซอร์ในเครื่อง ไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกอีกด้วย โดยไมโรคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า อัลแตร์ 8800 (Altair) ซึ่งทำออกมาเป็นชุดคิท โดยบริษัท MITS (Micro Insumentation And Telemetry Systems) อัลแตร์ นี้ประกอบด้วย ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลาย มีแผงหน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วยความจำ 256 Byte นอกจากนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำให้ MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียว มีจดหมายส่งเข้ามาขอสั่งซื้อเป็นจำนวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว จากที่คาดไว้ว่าจะขายได้ปีละ 200-300 ชุดเท่านั้น
ปัจจุบันบริษัทอินเทลมีผลิตภัณฑ์มากมายนอกจาก CPU ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากนั้นยังมี เมนบอร์ด , แฟลชไดร์ฟ , เนตเวิร์คการ์ดและอย่างอื่นอีกมากมาย ในปัจจุบันคงไม่มีใครที่จะบอกว่าไม่รู้จักบริษัทอินเทลเพราะว่าถือว่าเป็น บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์อยู่บนคอมพิวเตอร์ทั่วทุกประเทศบนโลกใบนี้
บริษัทอินเทลก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม ค.ศ. 1968 ซึ่งชื่อบริษัท Intel นั้นเป็นคำย่อมาจาก Integrated Electronics Coporation มีบริษัทแม่อยู่ที่เมืองซานตา คาล่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งของบริษัทอินเทลมีสองคน คนแรกคือ กอร์ดอน มัวร์ (Gordon Moore) และอีกคนคือ โรเบิร์ต นอยซ์ (Robert Noyce) ซึ่งโรเบิร์ต นอยซ์นั้นคืออดีตพนักงานของบริษัท Fairchild Semiconductor ในยุคแรกนั้นบริษัทอินเทลยังไม่ได้เป็นบริษัทที่ร่ำรวยเหมือนในปัจจุบันนี้ ยังเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ พนักงานในยุคแรกเริ่มของบริษัทอินเทลซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ บริษัทอินเทลเจริญก้าวหน้าใหญ่โตเหมือนในปัจจุบันนี้คือ แอนดรูว โกรฟ (Andrew Grove) ซึ่งในปัจจุบันแอนดรูว โกรฟกลายมาเป็นผู้บริหารงานคนสำคัญของบริษัทอินเทล จากผลงานของเขาทำให้อินเทลก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับโลกเช่นในปัจจุบัน
ปี ค.ศ.1969 ได้สร้างความสะเทือน ให้กับวงการอิเล็คทรอนิคส์ โดยการออกชิปหน่วยความจำ(Memory)ขนาด 1 Kbyte มาเป็นรายแรก ซึ่งในขณะนั้นหน่วยความจำขนาด 1 Kbyte ถือว่าสูงมาก ซึ่งทำให้วงการอิเล็คโทรนิคส์ในขณะนั้น จึงทำให้อินเทลคือเจ้าแรกๆที่ได้ผลิต SRAM และ DRAM ให้แก่ตลาดคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ในปี ค.ศ. 1971 อินเทลคือบริษัทแรกที่ได้ผลิตวงจรรวมแบบ ( Large Scale Integrated Circuit :LSI ) ทำการรวมเอาวงจรที่ใช้เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ( CPU) ของคอมพิวเตอร์มาบรรจุอยู่ในแผ่นไอซีเพียงตัวเดียวซึ่ง ไอซีนี้เรียกว่าไมโครโปรเซสเซอร์ ( Microprocessor) ซึ่งถือเป็น CPU ตัวแรกที่ได้ถูกผลิตขึ้น หลังจากบริษัทอินเทลได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Intel 4004 ในราคา 200 เหรียญสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แพงมากในขณะนั้น และเรียกชิปนี้ว่าเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ก็เพราะว่า 4004 นี้เป็น CPU (Central Processing Unit) ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาด 4.2 X 3.2 มิลลิเมตร ภายในประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์ จำนวน 2250 ตัว และเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 4 บิต หลังจากนั้น 1 ปีต่อมา Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ ขนาด 8 บิตออกมาโดยใช้ชื่อว่า 8008 มีชุดคำสั่ง 48 คำสั่ง และอ้างหน่วยความจำได้ 16 Kbyte ซึ่งทาง Intel หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทางด้านชิปหน่วยความจำได้อีกทางหนึ่ง
ในปี 1973 ทาง Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ที่มีชุดคำสั่งพื้นฐาน 74 คำสั่งและสามารถอ้างหน่วยความจำได้ 64 Kbyte และไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ตัวนี้ยังถือเป็นไมโครโปสเซสเซอร์ในเครื่อง ไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกอีกด้วย โดยไมโรคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า อัลแตร์ 8800 (Altair) ซึ่งทำออกมาเป็นชุดคิท โดยบริษัท MITS (Micro Insumentation And Telemetry Systems) อัลแตร์ นี้ประกอบด้วย ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลาย มีแผงหน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วยความจำ 256 Byte นอกจากนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำให้ MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียว มีจดหมายส่งเข้ามาขอสั่งซื้อเป็นจำนวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว จากที่คาดไว้ว่าจะขายได้ปีละ 200-300 ชุดเท่านั้น
ปัจจุบันบริษัทอินเทลมีผลิตภัณฑ์มากมายนอกจาก CPU ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากนั้นยังมี เมนบอร์ด , แฟลชไดร์ฟ , เนตเวิร์คการ์ดและอย่างอื่นอีกมากมาย ในปัจจุบันคงไม่มีใครที่จะบอกว่าไม่รู้จักบริษัทอินเทลเพราะว่าถือว่าเป็น บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์อยู่บนคอมพิวเตอร์ทั่วทุกประเทศบนโลกใบนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น